เมื่อแฟนผมให้ผมไปออกเดทกับหญิงอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่เธอ - เมื่อแฟนผมให้ผมไปออกเดทกับหญิงอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่เธอ นิยาย เมื่อแฟนผมให้ผมไปออกเดทกับหญิงอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่เธอ : Dek-D.com - Writer

    เมื่อแฟนผมให้ผมไปออกเดทกับหญิงอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่เธอ

    อ่านดูนะ อาสนให้จบด้วย และคุณจะประทับใจมากๆๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    314

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    314

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 มิ.ย. 52 / 08:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เราได้รับบทความนี้มาจากเพื่อนของเราทางเมล์
      เราอ่านแล้วชอบมากๆๆ
      มันเป็นเรื่องที่ไม่ไกลจากตัวเราเลย
      เราอยากให้เพื่อนๆได้อ่านนะ
      ---****************---



      ลองอ่านดูครับ....มีอะไรที่น่าทำอีกน่ะ....ที่เรายังอาจไม่ได้ทำ....ในขณะที่มีเวลา....

       


      หลังจากที่แต่งงานมาได้ 21 ปี
      ผมก็ค้นพบวิธีใหม่ในการทำให้ความรักสดใสมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ



      เพราะ....วันหนึ่งภรรยาผมบอกว่า ผมต้องออกเดทกับผู้หญิงคนหนึ่ง
      มันเป็นไอเดียของเธอล้วน ๆ จริง ๆ นะ


      ' ฉันรู้ว่าคุณรักเธอ '
      ภรรยาผมพูด

      ' แต่ผมรักคุณนี่ '
      ผมเถียง

      ' ฉันรู้ค่ะ แต่คุณก็รักเธอคนนี้ด้วยเหมือนกัน '



      ผู้หญิงคนนั้นที่ภรรยาอยากให้ผมไปหา คือ ' แม่ ' ของผมเอง
      ซึ่งเธอเป็นหม้ายและใช้ชีวิตเพียงลำพังกับสัตว์เลี้ยงมา 19 ปีแล้ว


      เนื่องจากงานที่รัดตัว ทั้งเจ้านายและลูกค้าที่ผมจะต้องรับผิดชอบ
      และยังมีภรรยาและลูก ๆ ที่ต้องดูแล
      ทำให้ผมไปเยี่ยมแม่เพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้น


      ผมตอบตกลงกับภรรยา และขอบคุณที่เธอให้โอกาสเช่นนั้น
      วันที่ผมโทรไปหาแม่ เพื่อชวนท่านออกไปทานข้าวเย็นและดูหนัง
      แม่ถามผมว่า ' มีอะไรหรือ ? ลูกสบายดีรึเปล่า ?'
      แม่คิดว่าการที่ผมโทรมาหาอย่างกระทันหัน
      หมายความว่ า มีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น
      ผมตอบแม่ว่า ' ไม่มีอะไรคับ ก็อยากคุยกับแม่ และคงจะดีมาก ถ้าเราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ตามลำพังสองคนแม่ลูกบ้าง ทานข้าวด้วยกันสักมื้อ ดูหนังด้วยกันสักเรื่อง '
      แม่นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า ' ได้สิจ๊ะ แม่ยินดีมากเลยจ้ะ ' + ' แล้วลูกมีเวลาว่างแล้วเหรอจ๊ะ หยุดงานได้เหรอ '
      ..
      เย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ผมขับรถไปรับแม่ที่บ้าน
      ผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย


      เมื่อผมไปถึงบ้านแม่ ผมก็สังเกตได้ว่า
      แม่เองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน

      แม่สว มเสื้อโค้ทนั่งรอผมอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว

      แม่ม้วนผมแล้วสวมชุดที่แม่ใส่ในวันฉลองครบรอบการแต่งงานครั้งสุดท้าย
      พลางยิ้มรับผมด้วยใบหน้าที่แจ่มใสราวกับทูตสวรรค์


      แม่บอกเพื่อน ๆ ว่า ' จะออกไปเที่ยวกับลูกชาย '  
      แม่พูดขณะที่กำลังก้าวขึ้นรถ เพื่อน ๆ ของแม่ต่างพากันประทับใจยกใหญ่


      เราไปภัตตาคารที่ถึงแม้จะไม่หรูหรา แต่ก็ดีเยี่ยม
      บรรยากาศก็อบอุ่นสบาย ๆ มาก ๆ
      ผมวางแผนว่าต้องเป็นร้านในสไตล์ที่แม่ต้องชอบ


      แม่ควงแขนผมเดินราวกับว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง


      หลังจากที่เรานั่งเรียบร้อยแล้ว
      ผมต้องเป็นฝ่ายอ่านเมนูอาหาร
      เพราะแม่บอกว่า ' ตอนนี้สายตาของแม่อ่านได้เพียงตัวหนังสือตัวใหญ่ ๆ เท่านั้น '


      เมื่อผมอ่านเมนูอาหารไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง
      จึงหยุดเว้นจังหวะ เพื่อให้แม่ได้เลือกรายการอาหาร
      ผมเงยหน้าขึ้น มองเห็นแม่กำลังจ้องมองดูผมอยู่ด้วยรอยยิ้มระลึกถึงความหลัง


      แม่พูดเปรยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า
      ' ตอนที่ลูกยังเด็ก แม่ต้องเป็นคนอ่าน เมนูให้ลูกฟังหลายรอบ '


      ผมบอกแม่ว่า ' งั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผมจะผลัดเวรให้แม่นั่งฟังสบาย ๆ บ้างแล้ว '

      ในระหว่างมื้ออาหารนั้น
      เราคุยกันอย่างถูกคอ - ไม่ใช่เรื่องราวพิเศษอะไร -
      เพียงแต่สลับกันถามว่าชีวิตของเรา


      เราคุยกันสนุกมากจนไปดูหนังไม่ทัน

      ..

      เมื่อผมไปส่งแม่ที่บ้าน แม่พูดว่า ' แล้วแม่จะออกไปเที่ยวกับลูกอีกนะ ' -
      ' แต่คราวนี้ลูกต้องยอมให้แม่เป็นเจ้าภาพนะจ๊ะ '



      ' แน่นอนครับ '
      ผมตอบตกลง


      ' ดินเน่อร์เป็นยังไงบ้าง ?'  
      ภรรยาถาม เมื่อผมกลับถึงบ้าน
      ' วิเศษมาก ๆ ดีเยี่ยมกว่าที่ผมคิดไว้มากเลย '   ผมตอบ

      อีกไม่กี่วันต่อมา แม่ผมเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
      มันเกิดขึ้นกระทันหันมากจนผมช่วยอะไรไม่ทันเลย

      หลายวันต่อมา
      ผมได้รับจดหมายพร้อมใบเสร็จจากภัตตาคารที่ผมกับแม่เคยไป
      มีโน๊ตเล็กๆแนบมาด้วยว่า...


      ' แม่จ่ายค่าอาหารชุดนี้เรียบร้อยแล้ว แม่รู้อยู่แล้วว่าแม่คงไปอีกครั้งไม่ได้ -
      แต่... แม่ก็จ่ายสำหรับสองคน คือ สำหรับลูกกับภรรยา - ลูกคงเดาไม่ถูกหรอกว่าวันนั้นมีความหมายต่อแม่มากแค่ไหน ,   รักลูกมากจ๊ะ '



      ณ วินาทีนั้น ผมได้เข้าใจถึงความสำคัญของการกล่าวคำว่า
      '' รัก '
      ต่อคนที่เรารัก ในช่วงเวลาที่เค้าต้องการมัน

      ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าครอบครัวของคุณ
      จงให้เวลากับพวกเค้าในเวลาที่พวกเค้าต้องการคุณ
      เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่อาจผลัดวันประกันพรุ่งได้



      - มีบางคนบอกว่า หลังจากที่คลอดลูกแล้วต้องใช้เวลาพักฟื้นราว 6 สัปดาห์ แม่จึงจะคืนสภาพเดิม
      คนนั้นไม่รู้ว่าหลังจากที่คุณได้เป็นแม่คนแล้ว ไม่มีคำว่าคนเดิมอีกต่อไป
      - บางคนบอกว่า คนเราเรียนรู้การเป็นแม่ได้เองตามสัญชาติญาณ
      คนนั้นไม่เคยพาลูกสามขวบไปซูเปอร์มาร์เกต
      - บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นน่าเบื่อ
      คนนั้นไม่เคยนั่งรถที่ลูกวัยรุ่นขับ หลังจากที่ได้ใบขับขี่มาหมาด ๆ
      - บางคนบอกว่า ถ้าคุณเป็นคนดี ลูกออกมาก็จะดีเอง
      คนนั้นนึกว่าเด็กคลอดออกมาพร้อมกับคู่มือการใช้และใบรับประกัน
      - บาง คนบอกว่า แม่ที่ดีไม่ควรขึ้นเสียงกับลูก
      คนนั้นไม่เคยเปิดประตูหลังบ้านออกมา ทันได้เห็นลูกหวดลูกบอลเข้าใส่หน้าต่างครัวของเพื่อนบ้านพอดิบพอดี
      - บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นไม่ต้องมีการศึกษาก็ได้
      คนนั้นไม่เคยช่วยลูกที่กำลังเรียน ป. 4 ทำการบ้านเลข
      - บางคนบอกว่า แม่รักลูกคนที่ห้าไม่เท่าลูกคนแรก
      คนนั้นไม่เคยมีลูกห้าคน
      - บางคนบอกว่า ช่วงที่ยากที่สุดของการเป็นแม่ คือตอนคลอดและตอนเลี้ยง
      คนนั้นไม่เคยยืนดูลูกขึ้นรถเมลไปโรงเรียนอนุบาลวันแรก
      ไม่เคยส่งลูกเข้าห้องหอในคืนแต่งงาน
      - บางคนบอกว่า งานของแม่นั้นหมู ๆ ปิดตาสองข้าง หรือมัดมือไว้ข้างหนึ่งก็ยังไหว
      คนนั้นไม่เคยสอนการออกเดินขายขนมให้กับเหล่ายุวนารี
      ที่กระจุ๊กกระจิ๊กคิกคักกันอยู่ตลอดเวลา
      - บางคนบอกว่า แม่เลิกกังวลได้แล้ว หลังจากที่ลูกแต่งงานออกเรือนไป
      คนนั้นไม่รู้ว่าการแต่งงานคือการนำลูกชายหรือลูกสาวคนใหม่เข้ามาอยู่ในสายใยใจของแม่
      - บางคนบอกว่างานของแม่ สิ้นสุดลงเมื่อลูกคนสุดท้ายออกจากบ้านไป
      คนนั้นไม่เคยมีหลานยาย หรือหลานย่า
      - บางคนบอกว่า แม่รู้ดีอยู่แล้วว่าคุณรักท่าน เพราะงั้น ไม่ต้องบอกท่านก็ได้
      คนนั้นไม่เคยเป็นแม่คน
      ................................................................

      โปรดส่งต่อถึงทุกคนที่  ' จะต้องเป็นแม่ ' และทุกคนที่ ' มีแม่ '

      ..................................................................

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×